จุดเด่นทางธุรกิจ

DIAMOND MODEL
ผลักดันกลยุทธ์บุกตลาดอาเซียน
 


SCG Decor เชื่อว่าความสำเร็จของ SCG Decor ในอดีตจนถึงปัจจุบันเป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพในการแข่งขันของ SCG Decor รวมทั้งความสามารถในการเดิบโตต่อไปในอนาคตด้วย โดยธุรกิจของ SCG Decor มีจุดเด่นที่สำคัญดังนี้
 


1.  ผู้นำธุรกิจในอาเซียน

เป็นผู้นำธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ (Decor Surfaces and Bathroom Sanitary) ในภูมิภาคอาเซียน เพื่อตอบโจทย์การเป็น "Space of Happiness - For Better Living of ASEAN People" แก่ผู้บริโภคกว่า 560 ล้านคน (ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย)

 

2.  สินค้าครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า

มีแบรนด์เป็นที่รู้จักและยอมรับในภูมิภาค มีผลิตภัณฑ์หลากหลายครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าทั้งระดับบน กลาง และตลาดแมส รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ

 

3.  ทีมออกแบบและวิจัยพัฒนาสินค้าทั่วอาเซียน

มีทีมออกแบบและทีมวิจัยพัฒนาสินค้าที่มีความเชี่ยวชาญกว่า 250 คน ทั่วอาเซียน สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA Products) และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น COTTO Smart Toilet ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพและอนามัย, กระเบื้อง LT by COTTO, กระเบื้องฟอกอากาศ Air ion, ผลิตภัณฑ์ยาแนว เป็นต้น
 

4.  คุณภาพสินค้าและผลิตภัณฑ์หลากหลาย

นำเสนอผลิตภัณฑ์ตกแต่งพื้นผิวภายในและภายนอกกระเบื้องปูพื้นและบุผนัง กระเบื้องขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่  และสุขภัณฑ์รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องหลากหลาย สามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ด้วยเทคโนโลยีการผลิตชั้นนำ เครื่องจักรอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์

 

5.  ช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุม

มีช่องทางจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมระดับภูมิภาค ทั้งร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ และร้านค้าปลีกของ SCG Decor ร้านคลังเซรามิก 100 สาขาในประเทศไทย การขายตรงแก่ลูกค้าโครงการ และมีเครือข่ายร้านผู้แทนจำหน่ายที่แข็งแกร่ง โดย SCG Decor มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย (Dealer) กว่า 592 รายในประเทศไทย และ 277 รายในต่างประเทศ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่สำคัญของแต่ละประเทศ

 

6.  เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยมาตรฐานระดับโลก

พัฒนาผลิตภัณฑ์รักษ์โลกและกระบวนการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดของเสียจากการผลิตและนำกลับมาหมุนเวียนเป็นผลิตภัณฑ์รักษ์โลกเพื่อสร้างรายได้ลดต้นทุนพลังงาน ด้วยการเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนและเพิ่มการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ มุ่งบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 (NET ZERO 2050) สอดคล้องกับแนวทาง ESG (Environmental, Social, and Governance)

 

7.  ประสบการณ์ของคณะกรรมการและทีมผู้บริหาร

มีคณะกรรมการและผู้บริหารที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี ในธุรกิจกระเบื้องเซรามิกและสุขภัณฑ์ รวมถึงผสานความร่วมมือจากเครือข่ายกลุ่ม SCG จากการแบ่งปันเซอร์วิสต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน เช่น การเงินและบัญชี, กฎหมาย, ทรัพยากรบุคคล เป็นต้น